กระทรวงสิ่งแวดล้อม วันที่ 12 ม.ค. 68
เพื่อขานรับแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและส่งเสริมให้สภาพแวดล้อมมีภาพลักษณ์ที่ดี เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2568 กระทรวงสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และหอการค้าเยาวชนนานาชาติ (Junior Chamber International, JCI) จึงได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ เพื่อรณรงค์ตาม “โครงการไม่ทิ้งก้นบุหรี่ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่สวยงามยิ่งขึ้น” โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการรณรงค์และการให้ความรู้ รวมถึงการผลักดันให้ภาคธุรกิจและร้านค้าตระหนักถึงแนวคิดและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการก้นบุหรี่ไม่ให้ทิ้งเกลื่อนกลาด พร้อมทั้งลดจำนวนก้นบุหรี่บนท้องถนน เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมสาธารณะ และสร้างพื้นที่สำหรับการใช้ชีวิตที่สะอาดและมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
จากรายงานการสำรวจ ก้นกรองบุหรี่เป็นสิ่งปฏิกูลที่พบบ่อยในกองขยะเลียบริมชายฝั่งทะเลทั่วโลก ประกอบกับสัดส่วนก้นกรองบุหรี่ในกองขยะเลียบริมชายฝั่งภายในไต้หวัน ก็มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น ในปี 2566 ขยะประเภทก้นบุหรี่ขยับขึ้นจากอันดับ 4 มาสู่อันดับ 3 แสดงให้เห็นถึงปัญหามลภาวะจากก้นบุหรี่ ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น นายเผิงฉี่หมิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม (Ministry of Environment, MOENV) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) กล่าวว่า แม้ว่าก้นบุหรี่แต่ละมวน จะดูเป็นเรื่องที่น้อยนิด แต่การทิ้งก้นบุหรี่เรี่ยราด ส่งผลกระทบต่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ โดยในแต่ละปี ยอดการจำหน่ายบุหรี่ภายในประเทศสูงถึง 36,200 ล้านมวน หาก 1 ใน 4 ส่วนของก้นบุหรี่ทั้งหมดถูกโยนทิ้งเรี่ยราด คาดการณ์ว่าในทุกปีจะมีก้นบุหรี่จำนวน 9,000 ล้านมวน กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในเมืองแล้ว ยังเป็นการปล่อยสารเคมีที่เป็นพิษ กว่า 4,000 ชนิด อันจะส่งผลต่อความมั่นคงทางระบบนิเวศ เนื่องจากก้นบุหรี่ถูกจัดให้เป็นขยะพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ และมีองค์ประกอบที่เป็น Cellulose acetate ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ที่ได้มาจากเซลลูโลส โดยจะถูกแปรสภาพเป็นไมโครพลาสติก (Microplastics) เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อม และอาจจะกระจายตัวเข้าสู่ระบบห่วงโซ่อาหาร อันจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของมวลมนุษยชาติ
รมว.เผิงฯ ย้ำว่า นอกจากความพยายามของรัฐบาลแล้ว การสนับสนุนและการลงมือปฏิบัติของภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะพลังขององค์กรเอกชน ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการเผยแพร่แนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมและการลงมือปฏิบัติจริง โครงการความร่วมมือในครั้งนี้ อาศัยอิทธิพลทางสังคมอันกว้างขวางของสมาชิกกว่า 7,200 คน จาก 153 สาขาใน 14 พื้นที่ทั่วประเทศของหอการค้าเยาวชนนานาชาติ เพื่อร่วมผลักดันและส่งเสริมแนวคิด "ไม่ทิ้งก้นบุหรี่"
พร้อมกันนี้ ยังได้เชิญชวนภาคธุรกิจให้มีส่วนร่วมโดยติดตั้งอุปกรณ์เก็บก้นบุหรี่ในจุดที่เหมาะสม รวมถึงการดูแลความสะอาดบริเวณโดยรอบของร้านค้า เพื่อลดมลพิษจากก้นบุหรี่ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และร่วมกันบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ SDG 11 (เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน) และ SDG 14 (ระบบนิเวศทางทะเล)
ด้วยเหตุนี้ MOENV จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่สูบบุหรี่ เคารพและปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วย “การดับไฟก้นบุหรี่ให้มอดสนิท หลีกเลี่ยงการเดินสูบบุหรี่ หลังสูบบุหรี่เสร็จแล้ว ควรนำก้นบุหรี่ของตนเองทิ้งลงถังขยะ หรือทิ้งในที่เขี่ยบุหรี่ที่จัดไว้ให้อย่างเคร่งครัด” เพื่อให้แน่ใจได้ว่า ก้นบุหรี่จะถูกจัดการอย่างถูกต้องและเหมาะสม มิใช่ถูกทิ้งเรี่ยราด อันจะเป็นการสรรสร้างในเมืองที่เราพำนักอาศัย มีความสวยงามและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น